สัตว์เลี้ยง

สัตว์ กินพืช พืชอาหารสัตว์

สัตว์ กินพืช

หัวข้อแนะนำ

สัตว์ กินพืช   ถ้ามีใครมาทายปัญหาว่า อะไรเอ่ย มองไปเห็นเป็นสีเขียวมากที่สุด ไปที่ไหนก็เจอ อยู่รอบ ๆ ตัวเรานี้เองเอ่ยแค่นี้เด็ก ๆ บางคนอาจจะเดาได้แล้ว แต่บางคนอาจจะยังไม่ค่อยแน่ใจ ลองอ่านต่อไปอีกนิดซิ จะเดาได้ใกล้เคียง หรือถูกต้องไหมมีประโยชน์มากมาย ให้ร่มเงาก็ได้ ให้ความชุ่มชื้นด้วย ทำให้โลกสวยงาม ทำให้อากาศบริสุทธิ์ ทำให้น้ำไม่ท่วม เป็นที่พักอาศัยของสัตว์ คนก็เอามาสร้างเป็นที่พักอาศัยบ้าง เป็นสิ่งประดิษฐ์สวยงามต่าง ๆ มากมายเด็ก ๆ ทราบไหมว่า ต้นไม้ก็เป็นประเภทหนึ่งของพืช ซึ่งแบ่งเรียกชื่อไปต่าง ๆ ตามรูปร่างลักษณะ เช่น ประเภทที่เป็นลำต้นสูงใหญ่ เรียกว่า ต้นไม้ ประเภทที่เป็นต้นเล็ก ๆ ปกคลุมพื้นดิน และเราไม่ต้องการ เรียกว่า วัชพืช ประเภทที่เป็นดอกเป็นใบสวย ๆ เรียกว่า ไม้ดอกไม้ประดับ และถ้าแบ่งตามประโยชน์ใช้สอย

ได้แก่ ต้นไม้ประเภทที่ใช้เป็นยา เรียกว่า สมุนไพร ประเภทที่เป็นอาหารของคนเรียกว่า พืชผักสวนครัว และผลไม้ ประเภทที่เป็นอาหารของสัตว์เรียกว่า พืชอาหารสัตว์ เด็กๆ ลองคิดซิว่า ถ้าโลกเราไม่มีพืชเลยสักประเภทเดียว โลกจะแห้งแล้ง กันดาร และอดอยากกันสักเพียงไหน โดยเฉพาะสัตว์ที่อาศัยพืชเป็นอาหาร คงจะล้มตายกันไปหมด เพราะขาดอาหารสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารได้แก่ โค กระบือ แพะ แกะ ช้าง ม้า ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็กๆ ก็มีกระต่าย หนูนา ตั๊กแตน หนอน ผีเสื้อ และแมลงต่าง ๆ เป็นต้น พืชที่เป็นอาหารสัตว์ก็มีทั้งส่วนที่เป็นใบ และลำต้น อาจเป็นพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น หญ้าเพ็ก หญ้าปากควาย และถั่วลิสงนา หรือพืชที่ปลูกในทุ่งสำหรับเลี้ยงสัตว์ เช่น หญ้าขน หญ้ากินนี หญ้าเนเปียร์ ถั่วลาย และถั่วฮามาตา หรือไม้ยืนต้น เช่น กระถิน แค และทองหลาง เป็นต้น

พืชอาหารสัตว์เป็นอาหารหลักของสัตว์ประเภทกินหญ้า

สัตว์ กินพืช

สัตว์ กินพืช  พืชอาหารสัตว์มีความสำคัญต่อชีวิต และความเป็นอยู่ของคนอย่างมากทำให้ต่อกรสิงโตได้ในบางขณะ แต่ยามที่มันต้องอพยพหนี มันก็จะกลายเป็นเป้าล่าอันดับต้นๆไป มี 2 ชนิด คือวิลเดอร์บีสต์ดำและวิลด์เดอร์บีตส์น้ำเงิน ในทุกปี ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูแล้ง ที่อาหารหากินยาก ฝูงวิลเดอบีสต์จำนวนกว่า 1.8–2 ล้านตัว จะพากัยอพยพจากทุ่งหญ้าเซเรงเกติ ในแทนซาเนีย เดินทางไกลเป็นระยะทางกว่า 1,500 กิโลเมตร เพื่อหาอาหาร ได้แก่ หญ้าที่ขึ้นใหม่ในทุ่งหญ้ามาไซมารา ของเคนยา ซึ่งเป็นเขตแดนติดต่อกัน และจะหากินอยู่ในทุ่งหญ้ามาไซมาราราว 2 เดือน จนถึงเดือนกันยายน–ตุลาคม ก็จะพากันอพยพกลับไปที่ทุ่งหญ้าเซเรงเกติที่จะมีหญ้าขึ้นใหม่เต็มท้องทุ่งเต็มไปหมด กล่าวคือ
๑. เป็นอาหารหลักของโค กระบือ และสัตว์ประเภทกินหญ้าอื่นๆ มีการค้นคว้าวิจัยคัดเลือกพืชอาหารสัตว์เพื่อให้ได้พันธุ์ที่ดีที่สุด สำหรับเป็นอาหารสัตว์ ซึ่งจะทำให้โคกระบือ ได้รับอาหารที่สมบูรณ์ด้วยคุณค่าอาหาร เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ และผลิตเนื้อ ผลิตนมได้มากขึ้น ผลที่เกิดตามมาก็คือ เกษตรกรมีอาชีพ และมีรายได้เพิ่มขึ้น คนทั่วไปได้กินอาหารเนื้อที่มีคุณภาพสูง

๒. ช่วยเพิ่มปุ๋ยไนโตรเจนในดิน เพิ่มความเจริญให้แก่พืช ซึ่งเป็นอาหารของคน พืชอาหารสัตว์โดยเฉพาะในกลุ่มถั่ว มีความสามารถพิเศษในการดึงไนโตรเจนจากอากาศ ให้กลายมาเป็นปุ๋ยในดินได้ โดยอาศัยจุลินทรีย์ชนิดหนึ่ง ในกลุ่มไรโซเลียม จึงทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น เมื่อปลูกพืชลงไป พืชก็เจริญงอกงาม เพราะได้ธาตุอาหารที่ช่วยการเจริญเติบโต

๓. ช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดิน หญ้าและถั่ว พืชอาหารสัตว์เจริญเติบโต โดยวิธีแผ่เถาคลุมดินหนาแน่น ช่วยป้องกันมิให้หน้าดินถูกน้ำชะล้างให้ละลายไหลไปหมด การเพาะปลูกก็จะได้ผลิตผลอย่างเต็มที่ พื้นที่ใด ที่ไม่มีพืชปกคลุมผิวดิน จะถูกน้ำ ฝน ลม พัดพา ชะล้างและทำลาย ขาดแร่ธาตุที่เป็นปุ๋ยของพืช ไม่อาจเพาะปลูกได้ หรือทำให้ไม่ได้ผลิตผลเท่าที่ควร

พืชอาหารสัตว์แบ่งออกเป็น ๓ ประเภทใหญ่ ๆ คือ

๑. พืชในวงศ์หญ้า มีทั้งพันธุ์หญ้าฤดูเดียว เช่น หญ้าปากควาย ต้นข้าวโพด ข้าวฟ่าง หญ้านกสีชมพู หญ้าต้นติด หญ้าไข่มุก หญ้าข้าวผี หรือพันธุ์หญ้าอายุหลายปี เช่น หญ้าขน หญ้ากินนี เนเปียร์ รูซี ชันกาด หญ้าปล้อง หญ้าซิกแนล และหญ้าโรค เป็นต้น พืชอายุหลายปีเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า ๓ ปี

๒. พืชในวงศ์ถั่ว มีทั้งถั่วอายุปีเดียว เช่น ถั่วลิสงนา ถั่วแปบ ถั่วมะแฮะ หรือพันธุ์ถั่วอายุหลายปี เช่น ถั่วสไตโล ถั่วฮามาตา ถั่วลาย ถั่วคนทิดิน และถั่วเซอราโตร เป็นต้น พืชอาหารสัตว์ในวงศ์ถั่วเป็นแหล่งอาหารโปรตีนของสัตว์

๓. พืชในกลุ่มไม้ยืนต้น เป็นพันธุ์ไม้พุ่ม หรือต้นไม้ใหญ่ ที่ใช้ใบเป็นอาหารสัตว์ได้ เช่น ต้นแค กระถิน ทองหลาง ประดู่ และแคฝรั่ง เป็นต้น ใบของพืชในกลุ่มนี้มีคุณค่าอาหารสูง เช่น โปรตีน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๑๔ ใช้เป็นอาหารเสริมโปรตีน ในช่วงฤดูแล้งได้ดี

ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในการที่ม้าลายมีลายแถบสีขาวเหล่านี้ เชื่อว่าใช้ในการพรางตัวจากศัตรู และทำให้ศัตรูซึ่งได้แก่ สัตว์กินเนื้อต่าง ๆ ตาลายได้เมื่อได้พบเจอม้าลายที่อยู่รวมกันเป็นฝูงในทุ่งหญ้ากว้าง ทำให้จับระยะทางที่จะโจมตีผิดพลาดไป สำหรับทัศนะของชาร์ลส์ ดาร์วิน เชื่อว่าม้าลายมีลายเพื่อจดจำกันได้ และตัวผู้ใช้เกี้ยวพาตัวเมีย รวมทั้งเชื่อว่ามีไว้ป้องกันแมลง โดยเฉพาะแมลงวัน มีหลักฐานว่าม้าลายดึงดูดแมลงน้อยกว่าสัตว์กินพืชชนิดอื่น ๆ ในแอฟริกา จากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ชาวฮังการีกลุ่มหนึ่ง ที่ทดลองโดยการนำหุ่นของม้า 4 ตัว ที่มีสีสันต่าง ๆ แตกต่างกันไป ไปตั้งไว้ในทุ่งหญ้า รวมถึงม้าลาย พบกว่าหุ่นม้าลายมีแมลงมาเกาะน้อยที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่าเพราะตาของแมลงเป็นระบบตารวมที่มีส่วนประกอบมากมาย และแมลงจะลงเกาะโดยการใช้แสงโพลาไรซ์ช่วย เป็นไปได้ว่าลายทางของม้าลายไปรบกวนแสงโพลาไรซ์ในการมองของแมลง ทำให้ยากในการลงเกาะบนตัวของม้าลาย มีสายพันธ์โบราณที่สูญพันธ์ไปแล้วอย่างแควกกา  สัตว์ กินพืช