สัตว์เลี้ยง

นางอาย สัตว์

นางอาย สัตว์

หัวข้อแนะนำ

นางอาย สัตว์   ลิงลม หรือนางอาย (Slow Loris) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อยู่ในวงศ์ Lorisidae ในอันดับไพรเมต (Primates) และเป็นสัตว์ประเภทลิงชนิดเดียวของโลกที่มีพิษในตัว พบได้ในป่าของภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลิงลมในประเทศไทยพบได้ 2 ชนิดพันธุ์ (Species) คือ ลิงลมเหนือ (Nycticebus bengalensis) และ ลิงลมใต้ (Nycticebus coucang)ลิงลม มีลักษณะรูปร่างเล็ก ขนนุ่ม สั้น หนาเป็นปุย มีเส้นสีน้ำตาลเข้มจากหัวไปตลอดแนวสันหลัง หน้าสั้น ตาโตกลม ใบหูเล็กจมอยู่ในขน และไม่มีหางลิงลมมีพฤติกรรมการหากินบนต้นไม้ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน และมักออกหากินตัวเดียว ยกเว้นในช่วงที่มีลูกอ่อน ลิงลมจะให้เจ้าตัวเล็กเกาะติดอกไปด้วย และในเวลากลางวันลิงลมจะซ่อนตัว โดยใช้ใบไม้หรืออยู่ในโพรงไม้ เพื่อหลบแสงแดดแม้ภายนอกลิงลมจะมีหน้าตาน่ารัก ตาโต ดูไม่มีพิษภัย แต่ความจริงแล้ว ลิงลม มีฟันและเขี้ยวที่แหลมคม เพื่อใช้กัดเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต โดยลิงลมจะเลียที่ต่อมพิษที่หลั่งจากต่อมใต้รักแร้ก่อนกัดไปที่เหยื่อ เพื่อให้สารพิษผสมกับน้ำลายก่อนกัด ซึ่งจะทำให้แผลที่เกิดขึ้นในตัวเหยื่อหายช้า และกลายเป็นหลุมเนื้อตายในที่สุดและหากลิงลมกัดคน พิษของมันจะทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

แต่ด้วยน่าตาที่ดูน่ารัก ลิงลมจึงมักถูกจับไปเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่บ่อยครั้ง และถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าที่มีการลักลอบขายกันมากเป็นอันดับหนึ่ง โดยผู้ขายหรือผู้เลี้ยงมักจะตัดเขี้ยวหรือฟันหน้าออกทั้งซี่บนและล่าง ซึ่งลิงลมบางตัวอาจจะติดเชื้อและตายได้ และอีกหนึ่งภัยคุกคามที่สำคัญ คือ การล่า บางพื้นที่มีการล่าลิงลมเพื่อนำไปทำเป็นยาบำรุงตามความเชื่อ และผู้ล่าบางคนยังมีความเชื่อว่าลิงลมเป็นตัวนำโชคร้าย ถ้าเข้าป่าล่าสัตว์แล้วเห็นลิงลมจะไม่เห็นสัตว์อื่นให้ล่า ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดและเกิดจากอคติของตัวผู้ล่าเองปัจจุบันลิงลมหรือนางอาย อยู่ในสถานะที่เสี่ยงที่จะสูญพันธ์ (Vulnerable) โดย IUCN และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่สามารถเลี้ยงได้ตามกฎหมาย และไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อชนิดพันธุ์ที่สามารถขออนุญาตเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองได้ นั่นคือไม่สามารถเลี้ยงได้อย่างเด็ดขาด

พิษของลิงลมช่วยไขปริศนา เหตุใดน้ำลายแมวมีสารก่อภูมิแพ้

นางอาย สัตว์   เรื่องน่าเศร้าอย่างหนึ่งของคนรักสัตว์ก็คือการแพ้สัตว์เลี้ยงของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาทาสแมวหลายคนมีอาการน้ำมูกไหล จาม และเคืองตาเมื่อต้องเข้าใกล้เจ้าเหมียว ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ร่างกายมีต่อโปรตีนบางชนิดในน้ำลายแมว โดยโปรตีนที่เป็นพิษนี้จะเคลือบติดอยู่ตามขนและผิวหนังแมว เมื่อมันเลียเนื้อตัวของมันนั่นเองที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบชัดว่า เหตุใดร่างกายแมวจึงต้องผลิตโปรตีนที่ทำให้มนุษย์บางคนเกิดอาการแพ้ออกมาด้วย จนกระทั่งพวกเขาได้ถอดรหัสพันธุกรรมของโปรตีนบางชนิดที่อยู่ในสารพิษของลิงลม (Slow loris) แล้วพบว่าเป็นโปรตีนชนิดเดียวกัน

ทีมนักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย ตีพิมพ์ผลการค้นพบดังกล่าวลงในวารสาร Toxins โดยระบุว่าโปรตีนที่ทำให้เกิดอาการแพ้น้ำลายแมว มีอยู่ในสารพิษร้ายแรงที่หลั่งจากต่อมใต้รักแร้ของลิงลมด้วย ซึ่งลิงลมใช้พิษนี้ในการต่อสู้ป้องกันตัวการค้นพบนี้ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า แมวอาจผลิตโปรตีนที่ทำให้มนุษย์แพ้ขึ้นมาด้วยเหตุผลทางวิวัฒนาการแบบเดียวกันกับลิงลม คือเพื่อป้องกันขับไล่ศัตรูให้ถอยห่างลิงลมหรือนางอายเป็นสัตว์ประเภทลิงชนิดเดียวของโลกที่มีพิษในตัว พบได้ในป่าของภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แม้มันจะมีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ในปากของมันมีฟันและเขี้ยวคมที่ใช้กัดเหยื่อและศัตรูจนถึงตายได้ โดยมันจะเลียต่อมพิษของตนเองเพื่อให้สารพิษผสมกับน้ำลายก่อนกัด ซึ่งจะทำให้แผลที่เกิดขึ้นหายช้าและกลายเป็นหลุมเนื้อตายในภายหลัง

หากลิงลมกัดคน พิษของมันจะทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจได้ เหมือนกับการแพ้โปรตีนในน้ำลายแมวที่ทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลงและหายใจลำบาก ผู้ค้าสัตว์ป่าจึงนิยมตัดเขี้ยวของลิงลมออกเสียก่อนจะนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยงดร. ไบรอัน ฟราย ผู้นำทีมวิจัยบอกว่า “การค้นพบนี้ทำให้เรามองปัญหาการแพ้สัตว์เลี้ยงด้วยมุมมองใหม่ทางวิวัฒนาการ ซึ่งจะช่วยนำเราไปสู่การค้นพบวิธีรักษาที่ดียิ่งขึ้น””มีผู้คนราว 10-25% ในแต่ละภูมิภาคของโลกที่แพ้น้ำลายแมว ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่มากเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ เราจึงต้องศึกษาต่อไปเพื่อพิสูจน์ยืนยันว่า สารพิษนี้เป็นสิ่งที่วิวัฒนาการของแมวสร้างขึ้นมาเพื่อขับไล่สัตว์นักล่าจริงหรือไม่”

พฤติกรรมการหากิน

ส่วนพฤติกรรมการหากินนั้น จะหากินบนต้นไม้ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน และมักออกหากินตัวเดียว ยกเว้นในช่วงที่มีลูกอ่อน ลิงลมจะให้ลูกเกาะติดอกไปด้วย และในเวลากลางวันลิงลมจะซ่อนตัว โดยใช้ใบไม้หรืออยู่ในโพรงไม้เพื่อหลบแสงแดด แม้ภายนอกลิงลมจะมีหน้าตาน่ารัก ตาโต ดูไม่มีพิษภัย แต่ความจริงแล้ว ลิงลมมีฟันและเขี้ยวที่แหลมคมเพื่อใช้กัดเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต โดยลิงลมจะเลียที่ต่อมพิษที่หลั่งจากต่อมใต้รักแร้ก่อนกัดไปที่เหยื่อ เพื่อให้สารพิษผสมกับน้ำลายก่อนกัด ซึ่งจะทำให้แผลที่เกิดขึ้นในตัวเหยื่อหายช้า และกลายเป็นหลุมเนื้อตายในที่สุด และหากลิงลมกัดคน พิษของมันจะทำให้เกิดลิงลมที่พบนั้นคาดว่าอาจจะมีผู้ที่ครอบครองจากการซื้อขายในตลาดค้าขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายแอบนำมาเลี้ยงแล้วหลุดจากกรง

หรืออาจจะแอบนำมาปล่อยเนื่องจากกลัวความผิด  เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อเป็นหลักฐานและเร่งตามตัวผู้ที่นำลิงลมมาปล่อย รวมทั้งติดตามขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าสงวนออนไลน์ จากนั้นได้นำลิงลมตัวดังกล่าวส่งไปไว้ที่คลินิกสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพ ก่อนพิจารณาดำเนินการส่งต่อสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าหรือปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไปอาการแพ้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ไม่สามารถเลี้ยงได้ตามกฎหมาย และไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อชนิดพันธุ์ที่สามารถขออนุญาตเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองได้ นั่นคือไม่สามารถเลี้ยงได้อย่างเด็ดขาดมีเส้นสีน้ำตาลเข้มจากหัวไปตลอดแนวสันหลัง หน้าสั้น ตาโตกลม ใบหูเล็กจมอยู่ในขน และไม่มีหาง  นางอาย สัตว์